[18 มกราคม 2562]

Fitness and life

5 อาการบาดเจ็บ ที่มักเกิดกับนักวิ่ง

อาการบาดเจ็บที่มักเกิดกับนักวิ่ง แก้ไขได้ แค่รู้จักต้นตอ

อาการบาดเจ็บ มักเป็นของคู่กันกับนักวิ่ง วันนี้ เรามี 5 อาการที่หลายคนกำลังพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นเอ็นร้อยหวายอักเสบ กระดูกอ่อนข้อเข่าอักเสบ และปวดหัวเข่าด้านนอกพร้อมทั้งวิธีดูตัวเองให้วิ่งได้อย่างไร้กังวล

TOP 5 RUNNING INJURIES

1. กระดูกหักล้ากระดูกหักล้า

หรือ Stress Fracture ส่วนใหญ่เกิดกับนักวิ่งมาราธอนหรือนักวิ่งเทรลเพราะร่างกายออกกําลังหนักเกินไป หรือวิ่งบนพื้นผิวที่ร่างกายไม่คุ้นเคยทําให้กล้ามเนื้อล้า ไม่สามารถรองรับแรงกระแทกต่อไปได้แรงจึงตกที่กระดูกจนทําให้กระดูกหัก ส่วนใหญ่เกิดกับกระดูกหน้าแข้ง หรือกระดูกเท้าถ้าเกิดขึ้นแล้วต้องพักการวิ่งนาน 3-4 เดือนกว่าอาการจะดีขึ้น

2.กระดูกอ่อนข้อเข่าอักเสบ

มักเกิดกับผิวกระดูกอ่อนสะบ้าด้านในเริ่มเสื่อมเพราะรับแรงกระแทกจากการวิ่งมากเกินไป จึงเริ่มมีอาการเสียว ขัด และปวดไม่มากแต่เป็นๆ หายๆ ถ้าเป็นมาก อาจมี อาการบวมตามมา และหากไม่รักษาแต่เนิ่นๆจะเกิดภาวะเข่าเสื่อมถาวรตามมา

3.ปวดหัวเข่าด้านนอก

อาการปวดหัวเข่าด้านนอก หรือ ITBS(IliotibialBandSyndrome) เกิดจากการวิ่งมากเกินไปทําให้กล้ามเนื้อที่เชื่อมระหว่างกระดูกช่วงเอวกับขาท่อนล่างเสียดสีกับกระดูกอย่างรุนแรง ในจังหวะเหยียดและงอเข่าโดยเฉพาะการวิ่งทางชันหรือขึ้นลงเขา หากปล่อยไว้นานอาจทําให้ขาโก่งหรือข้อเท้าบิดเข้าด้านในได้

4.เอ็นร้อยหวายอักเสบ

เกิดจากการวิ่งบ่อยเกินไปหรือวิ่งโดยสวมรองเท้าแข็งเกินไป ทําให้เอ็นร้อยหวายเกิดการเสียดสีมากจึงอักเสบหรือเกิดฉีกขาด ยิ่งฉีกขาดกว้าง ยิ่งปวดมากหากเกิดขึ้นแล้วต้องพักให้หายก่อนลงวิ่งอีก

5.รองช้ํา

รองช้ํา หรือPlantarFasciitis คืออาการเอ็นรองฝ่าเท้าอักเสบจากการรับแรงกระแทกมากเกินหรือลงแรงกระแทกผิดท่า ทําให้เอ็นฝ่าเท้าอักเสบและฉีกขาดจึงเกิดอาการปวดฝ่าเท้าโดยเฉพาะส้นเท้า

 

แหล่งที่มา : https://goodlifeupdate.com/healthy-body/exercise/149823.html 

หัวข้อ 5อาการบาดเจ็บ ที่มักเกิดกับนักวิ่ง

ผู้จัดหาข้อมูล : ศูนย์ส่งเสริมสมรรถภาพทางกาย


< ย้อนกลับ