๑.หลักการและเหตุผล
จากข้อมูลล่าสุดที่มีการสำรวจโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า โดยเฉลี่ยคนไทยอ่านหนังสือเพียงวันละ ๓๘ นาที อ่านหนังสือเฉลี่ยปีละ ๒-๕ เล่ม(สำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๕๖) ดังนั้นผู้จัดทำจึงจัดโครงการ “Read for Prize” ซึ่งเป็นโครงการที่จัดทำเพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการเล่มเกมตอบคำถามจากการอ่านหนังสือผู้จัดทำโครงการต้องการเพิ่มแรงจูงใจในการอ่านหนังสือ โดยเริ่มต้นจากสังคมภายในโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม
๒.วัตถุประสงค์
๑. เพื่อให้นักเรียนรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
๒. เพื่อส่งเสริมนิสัยรักการของนักเรียนโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฝ่ายมัธยม
๓.ตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ
จำนวนนักเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฝ่ายมัธยม ที่เข้าร่วมโครงการไม่ต่ำกว่า ๓๐ คน
๔.วิธีการดำเนินการ
๑. นำเสนอโครงการต่ออาจารย์ประจำวิชาห้องสมุดแสนสาร(สารสนเทศ)
๒. นำเสนอโครงการผ่านการประชุมคณะกรรมการฝ่ายวิชาการหลักสูตรและการสอน
๓. นำเสนอโครงการถึงท่านผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์ฝ่ายมัธยม
๔. นำเสนอโครงการผ่านเว็บไซต์โรงเรียน,เว็บไซต์ห้องสมุด, หน้าเสาธง, ผ่านอาจารย์ประจำชั้น และผ่านป้ายประชาสัมพันธ์
๕.จัดทำคำถามประจำสัปดาห์และจัดทำกล่องใส่คำตอบโดยจะวางไว้เคาน์เตอร์บริการยืม-คืนหนังสือ
๖. ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถส่งคำตอบได้ที่ห้องสมุดโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฝ่ายมัธยม ตั้งแต่วันจันทร์ที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๙ - วันจันทร์ที่๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
๗. รางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศอันดับ ๑และ ๒ จะได้รับใบประกาศนียบัตรจากผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฝ่ายมัธยม ประกาศผลรางวัล วันศุกร์ที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
๕.ระยะเวลาของโครงการ
๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ - ๒๖ กุมภาพันธ์๒๕๕๙
๖.สถานที่ดำเนินงาน
ห้องสมุดโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฝ่ายมัธยม
๗.ผู้รับผิดชอบโครงการ
๑. ด.ญ.ญาณิกานต์ ธนกิจเจริญพัฒน์ ม.๒/๑ เลขที่ ๕
๒. ด.ญ.ธนัชวรรณ สำเร็จวาณิชย์ ม.๒/๑ เลขที่ ๙
๓. ด.ญ.นลินรัตน์ วิไลรัตน์ ม.๒/๑ เลขที่ ๑๓
๔. ด.ช.วรเดช หวง ม.๒/๔ เลขที่ ๒๙
๕. ด.ญ.พลอยเพ็ญ เส็งตากแดด ม.๒/๕ เลขที่ ๙
๖. ด.ญ.พีรดา ด่านอรุณสวัสดิ์ ม.๒/๕ เลขที่ ๑๙
๗. ด.ญ.ศิรภา อมรรัตนกิจ ม.๒/๕ เลขที่ ๓๑
๘. หน่วยห้องสมุดโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฝ่ายมัธยม
๘.ผลที่คาดว่าจะได้รับ
๑. นักเรียนรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
๒. นักเรียนโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยมมีนิสัยรักการอ่านหนังสือมากขึ้น
๙.งบประมาณ